วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อบรม กับ อ.บุญเลิศ อรุณพิบูลย์


Cloud Computing
              เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรา ทั้งนี้ในปัจจุบันเราได้ใช้ซอฟต์แวร์ที่ให้บริการผ่าน Cloud กันอย่างมากมายอาทิเช่น Facebook, Gmail, Hotmail และ Dropbox ระบบซอฟต์แวร์เหล่านี้ทำงานอยู่บน Data Center ขนาดใหญ่ มีความเสถียรและสามารถยืดยุ่น (Elastic) ได้ตามจำนวนผู้ใช้งาน เปรียบเสมือนการใช้ไฟฟ้าในบ้านหรือองค์กรขนาดใหญ่ได้ ที่เราไม่จำเป็นต้องมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเอง แต่เราสามารถมอบหมายหน้าที่การผลิตไฟฟ้านั้นให้กับการไฟฟ้า และเราจ่ายค่าบริการตามการใช้งานจริง ซอฟต์แวร์ที่อยู่บน Cloud ก็เช่นกัน เราจะใช้ซอฟต์แวร์จากผู้ให้บริการโดยไม่ต้องมี Server หรือ Data center ในบ้านหรือองค์กรและจ่ายใช้ซอฟต์แวร์ตามการใช้งานจริง

          แยกตามการให้บริการ
-          Public cloud คือการให้บริการแบบกลุ่มสาธารณะหรือระดับองค์กร
-          Pivate cloud คือการให้บริการแบบระดับส่วนบุคคล เช่น Facebook Gmail เป็นต้น
-          Hybrid Cloud คือการให้บริการแบบ2ทางเลือก หรือแบบผสมทั้งแบบระดับองค์กรและส่วนบุคคล
แยกตามประเภทของเทคโนโลยี
-          SaaS (Softwere as a Service) เป็นผู้ให้บริการที่ยอมทำซอฟแวร์เหมือนMicrosoft ให้ใช้งานโดยไม่ต้องติดตั้งทีละเครื่องๆ เช่น zoho.com, docs.google.com
-          IaaS (Infrastructure as a Service)
-          Paas (PlatForm as a Service)

*** Black April คือ เหตุการณ์ที่ระบบเทคโนโลยี ต่างล่มโดยมิได้นัดหมายในเดือนเมษายน 2011ที่ขอเรียกได้ว่าเป็น “Black April” เดือนที่เกิดความโกลาหลในอุตสาหกรรมไอซีที ไปพอสมควร ไม่เพียงแต่ในต่างประเทศ บ้านเราระบบไทยคมก็ทำเอาหน้าจอมืดไปร่วมสามชั่วโมง ยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจค้าปลีกออนไลน์อย่าง Amazon ส่งผลให้องค์กรนี้มีระบบไอทีที่เข้มแข็งมาก ขนาดที่เข้ามายืนอยู่แถวหน้าได้ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะบริการคลาวด์ (Cloud service) ที่ได้รับการกล่าวขานถึง เป็นกรณีศึกษาของธุรกิจ Cloud computing มาหลายครั้งหลายหน แต่ในที่สุดก็ไม่พ้นกับปัญหาการให้บริการจนได้ สอดคล้องกับคำพระสอนที่ว่า ทุกอย่างเป็นสิ่งไม่เที่ยง
ล่าสุดทาง Amazon ได้ออกมาชี้แจงทางเหตุทางเทคนิคที่ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้ บนบริการ Elastic Compute Cloud หรือ EC2 ส่งผลให้บริการจากหลายบริษัทไม่สามารถใช้งานได้ อาทิเช่น Foursquare, Hootsuite, Reddit และ Quoro
ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้ใช้บริการบางราย สูญเสียข้อมูลบางส่วนไปเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค ทาง Amazon ได้ออกมารับผิดชอบด้วยการคืนเครดิตเป็นจำนวนวัน เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ไม่สามารถให้บริการได้ แม้จะออกมาแสดงความรับผิดชอบแล้ว แต่ยังก่อให้เกิดความเสียหายไม่เพียงกับตัวบริษัทเท่านั้น แต่ส่งผลเชิงลบต่อภาพรวมของบริการคลาวด์ (Cloud service) ที่คุยนักคุยหนาว่า หนังเหนียวไม่มีทางล่ม แต่ครั้งนี้ก็กินเวลาไปเป็นวัน
ทาง Amazon ได้กล่าวว่า ทางบริษัทเข้าใจถึงความสำคัญของธุรกิจของผู้ใช้บริการ และจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเรียนรู้จากบทเรียนครั้งสำคัญนี้ แล้วนำไปใช้ปรับปรุงบริการของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น แม้จะมีการชดเชยให้กับลูกค้าแต่ก็มิได้มีการเปิดเผยตัวเลข ว่าทำให้บริษัทสูญเสียไปเท่าใด คงจะต้องมาคอยติดตามจากรายงายผลประกอบการกันอีกทีหนึ่ง
Amazon จัดเป็นผู้นำด้านค้าปลีกบนโลกออนไลน์ ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะหนอนหนังสือด้วยแล้ว คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นผู้ให้บริการ Cloud computing รายใหญ่ มีลูกค้าเช่าใช้บริการเซิร์ฟเวอร์จากทั่วทุกมุมโลก แม้ว่ารายได้จากบริการ Amazon Web Services (AWS) จะคิดเป็นสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมด แต่ทางบริษัทให้ความสำคัญกับบริการนี้มาก โดยเห็นว่าเป็นบริการที่มีศักยภาพ เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของบริษัทในอนาคต
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 เมษายน 2011 คือ ดาต้าเซนเตอร์ (Data center) ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบิน Dulles ใกล้กับ Washington ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุปกรณ์หลักสำหรับบริการ EC2 แม้จะผ่านไปเป็นสัปดาห์ทางบริษัทก็ยังต้องพยายามกู้เซิร์ฟเวอร์บางส่วนอยู่ การใช้บริการไม่ได้ของ Public cloud ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความเสี่ยงในการโยกย้ายระบบเข้าสู่ระบบคลาวด์ (Cloud) สอดคล้องกับการสำรวจทุกครั้ง ที่เรามักจะเห็นความกังวลลำดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการจะเข้ามาใช้บริการคลาวด์ (Cloud service) คำนึงถึง ความเสถียรของระบบ ความปลอดภัยของระบบ ความเสี่ยงในเรื่อง Service reliability ความเสถียรของระบบ มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจที่อยู่บนโลกออนไลน์ ถ้าเว็บมีปัญหาเข้าไม่ได้ ก็เหมือนกับมีร้านแต่ปิดให้บริการ ลูกค้าจะมาใช้บริการก็ไม่ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับธุรกิจบนออนไลน์แล้ว การที่เว็บไม่สามารถเข้าใช้งานได้ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ กระทบถึงความเชื่อมั่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น